เที่ยวประเทศกรีซ กันต่อนะครับกับ 4 วันสุดท้าย
เราจะพาเที่ยวทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศกรีซ และจบที่เอเธนส์
รอติดตามชมนะครับ อ่อเราจะมาแชร์ประสบการณ์อันน่าระทึกที่เอเธนส์
สำหรับ part 1 สามารถอ่านได้ที่ลิงค์: https://www.travelxdentist.com/greece01/
Day5 : Delphi-Meteora
การเดินทางวันนี้ เราวางแผนเช่ารถขับไปกันเองครับ สะดวกดี เพราะการจะไป Meteora นั้นไกลมากและเดินทางยากพอสมควร(บางคนไปรถไฟ)
เราเช่ารถของบริษัท Sixt การบริการดีและให้คำแนะนำดีมากครับ แนะนำสาขาที่ Acropolis ตรง Syngrou Avenue
จุดหมายปลายทางแรกคือ Delphi เมืองศูนย์กลางของโลก
จากเอเธนส์กว่าจะหลุดจากตัวเมืองมาได้ก็ใช้เวลาพอสมควร รถติดตามปกติของเมืองหลวง
ขับออกนอกเมืองก็ผ่านไร่มะกอกเต็มไปหมดเลย เหมือนชนบทบ้านเรา
ระหว่างที่จะไปเมือง Delphi เราจะผ่านเมือง Arachova เมืองตากอากาศที่สำคัญของกรีซ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาพานาซอสเป็นเมืองที่โอบล้อมด้วยภูเขาบนยอดยังไม่ละลายเลยครับ คนส่วนใหญ่มักมาเล่นสกีกันในหน้าหนาว เมืองArachora มาโด่งดังจากการเป็นฉากถ่ายทำ ในซีรีย์ Descendants of the sun

 

เดลฟี่ (Delphi) ศูนย์กลางโลกหรือสะดือของโลก (navel of the earth)

ใช้เวลาเดินทางจากเอเธนส์ประมาณ 2.30 ชม.

เมื่อราว 1,400 ปีก่อนคริสต์ศักราช เดลฟีเป็นที่บูชาพระแม่ธรณีเทพีกายา (Gaia) ตำนานเล่าว่า ณ ที่นี้มีงูเหลือมปกปักรักษาอยู่ แต่ต่อมาอะพอลโล โอรสเทพเจ้าซีอุสได้สังหารงูนี้ และก่อตั้งวิหารพยากรณ์ขึ้นที่นี่ โดยมีนักบวชหญิงชื่อ ไพเธีย(Pythia) เป็นคนทรงในศตวรรษที่ 7 และ 6

ก่อนคริสต์ศักราชซึ่งเป็นสมัยที่เทพพยากรณ์เป็นที่เลื่อมใสสูงสุด มีผู้คนนับพันนับหมื่น ไม่ว่ายากดีมีจนเพียงไร พากันเดินทางมาขอคำพยากรณ์จากเทพเจ้าอะพอลโล ซึ่งถ่ายทอดผ่านร่างทรงของนักบวชหญิงไพเธีย

ภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ ไพเธียนักบวชหญิงชาวบ้านวัยกลางคนประทับบนแท่นทองสามขาที่ตั้งคร่อมบริเวณรอยแยกลึกลงไปในพื้นโลก
ไพเธียทำพิธีเข้าทรงโดยการเคี้ยวใบกระวาน (Bay Leaves) หรือสูดเอาไอพิษภูเขาไฟที่ลอยกรุ่นขึ้นจากรอยแยกแทบเท้าเธอ
ไพเธียจะเปล่งคำพยากรณ์ขาดเป็นห้วง ๆ ด้วยอาการสั่นเทิ้มระหว่างที่เข้าทรงอยู่นั้น
เรื่องที่คนมาขอเทพพยากรณ์ที่เดลฟีนั้น มีทั้งประเด็นทางการเมือง เช่น การแผ่ขยายอาณาจักรของกรีก ไปจนถึงเรื่องในชีวิตประจำวัน เช่น เรื่องคู่ครอง การมีลูก หรือปัญหาการเงิน บางครั้งเทพพยากรณ์ก็ทายได้ตรง
ครั้นมาถึงปี ค.ศ.385 จักรพรรดิชาวคริสต์พระนามว่า ธีโอโดซิอุส (Theodosius) ทรงบัญชาให้ปิดวิหารพยากรณ์ที่เดลฟีอย่างเป็นทางการ
ลัทธิความเชื่อในเทพเจ้าอะพอลโลจึงถูกล้มล้างไปและมีศาสนาใหม่เข้ามาแทนที่ วิหารพยากรณ์แห่งนี้ค่อย ๆ ถูงฝังกลบลบเลือนไป เมื่อมีหมู่บ้านมาสร้างทับ อย่างไรก็ตาม ในปี ค.ศ.1892 มีการอพยพหมู่บ้านและชาวบ้านทั้งหมดออกไป
เพื่อให้นักโบราณคดีฝรั่งเศสชื่อ เตโอฟิล โอมอลล์ ลงมือขุดค้นซากวิหารที่เดลฟีซึ่งปรากฎเป็นซากปรักหักพังเช่นที่เราเห็นในปัจจุบันแผนที่

 

จากแผนที่ มุมขวาล่าง เราแนะนำว่าให้เที่ยวจุดแรกที่จะเจอก่อนคือ
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอาเธน่าพรอนเนีย (The Sanctuary of Athena Pronaia)
มีวิหาร 5 หลังเรียงกัน สร้างตั้งแต่ยุคอาร์เคอิคเรื่อยมาจนถึงยุคคลาสสิค จะเห็นเสากลมเรียงอยู่สามเสา โดดเด่นที่สุด คือวิหารกลม (Tholos)
เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเดลฟี่ ห้ามพลาดเลยจุดนี้
ถ้าขับรถมาเองแนะนำให้จอด ก่อนจะถึงเมืองโบราณเดลฟี่ จะได้ไม่เดินไกลครับ เพราะทางลงไปที่
The Sanctuary of Athena Pronaia  ไม่มีป้ายบอก แต่ไม่ต้องกลัวครับ เดินตามคนแถวนั้นไป เพราะตรงนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของเมืองเดลฟี่เลย
ถัดมาจาก The Sanctuary of Athena Pronaia เราเดินย้อนขึ้นมาจะเจอ กับประตูทางเข้าชม ค่าเข้า 12 €
สะดือโลก (The Omphalos) ตั้งบนตำแหน่งที่ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าเป็นจุดศูนย์กลางของโลก
ตำนานกล่าวว่าเทพซุสทิ้งหินก้อนนี้ลงมาจากสวรรค์เพื่อกำหนดตำแหน่งกึ่งกลางของโลก
อันนี้เป็นของจำลองนะครับ ของจริงย้ายไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์เดลฟี่
The Athenian Treasury สร้างจากหินอ่อนสีขาว
เป็นที่เก็บสมบัติของเอเธนส์ที่ได้จากการรบชนะเปอร์เซียในสงครามมาราธอน
อนุสาวรีย์กษัตริย์แอตตาลัสที่1 และเอมิเลียสเปาลุสขุนนางโรมัน
รูปทรงดูแปลกตามากๆ
Sanctuary of Apollo เป็นเทวสถานสำหรับบูชาอะพอลโล
วิหารแห่งเป็นที่ๆใช้อ่านคำพยากรณ์ โดยผู้พยากรณ์ที่เรียกว่าไพเธียจะเป็นสตรีผู้ทำหน้าที่อ่านคำพยากรณ์ให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองรัฐต่างๆ
โรงละคร (Theatre) ที่จุคนได้ 5,000 คน สร้างเมื่อ 400 BC สำหรับเป็นที่จัดการแสดง และงานเทศกาลต่างๆ
ส่วน Stadium ไม่ได้ขึ้นไปละครับ รู้สึกเหนื่อยมากเลย

 

พิพิธภัณฑ์โบราณคดีเดลฟี่ (Delphi Archeological Museum)

ถัดมาจากตรงทางเข้าเมืองโบราณเดลฟี่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้รวบรวมโบราณวัตถุที่ขุดพบในเดลฟี่ ผลงานที่เด่นเลยเช่น

นาเซียนสฟิงค์ (The Naxian Sphinx) เป็นบรรณาการที่ชาวเกาะนาซอสมอบให้เดลฟี่ เคยประดับบนเสาสูง 12.5 เมตร ใกล้คลังสมบัติเอเธนส์ ตัวใหญ่มากๆครับ

The Omphalos หินสะดือโลก

รูปปั้นแอนตินูส (Antinoos)
ชายรูปงาม คู่เกย์ของจักพรรดิฮาเดรียน
รูปสำริดคนขี่รถม้า (The Charioteer) คาดว่าสร้างประมาณ 460 BC ช่วงต้นยุคคลาสสิค เคยมีม้าควบหน้ารถสี่ตัว
รูปสำริดนี้สภาพสมบูรณ์มากเลยครับ รูปหล่อนี้ถูกฝังหลังเกิดแผ่นดินไหว ทำให้ยังมีสภาพดีอยู่

cr:http://greeceancientmodern.com/delphi.html

เราใช้เวลาที่ Delphi เกือบๆ 2 ชม. เลยไปหารัยทานกันในเมือง Delphi มีร้านอาหารเปิดให้บริการ แนะนำร้าน Taverna DION
ขายอาหารกรีกแบบดั้งเดิม มีเป็นเซตให้เราเลือก

 

เราขับรถต่ออีก 3.5 ชม ไปยังเมืองKalablaka เราจะไปชมพระอาทิตย์ตกดินกันที่ Meteora ระหว่างทางต้องขึ้นเขา คดเคี้ยวพอสมควร

Meteora
Meteora ตั้งอยู่แคว้น Kalablaka บนที่ราบ Thessaly ที่ตั้งของ Meteora อารามศักดิ์สิทธิ์บนยอดเขาMeteora  ซึ่งมีความสูงประมาณ 245 เมตร เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากครับ ถ้ามาประเทศกรีซควรมาที่นี่ครับ
Meteora ในภาษากรีกแปลว่า “Suspend into the air” (ล่องลอยอยู่กลางอากาศ) ใช้เรียกหมู่อารามของศาสนาคริสต์ นิกายออร์โทดอกซ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่เป็นแท่งหินสูง บางอารามตั้งอยู่บนแท่งหินเดี่ยวๆ ซึ่งชวนให้คิดว่าสร้างได้อย่างไรในยุคที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย
อารามบนยอดเขาหินเหล่านี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่14 เมื่อจักรวรรดิไบแซนไทน์ถูกรุกรานจากพวกเติร์ก บรรดานักบวชภายใต้การนำของ Athanasios Koinovitis เห็นว่าทำเลบนผาหิน ยากต่อการบุกโจมตีของพวกเติร์ก และช่วยให้เขามุ่งมั่นในศาสนา เพราะการสร้างอารามนี้ก็เพื่อจะได้เข้าใกล้พระเจ้าอีกด้วย มีการสร้างอารามมีทั้งสิ้น 24 อาราม ซึ่งทั้งหมดเข้าถึงได้ด้วยยการปีนป่ายบันไดเชือก และกว้านที่ชักขึ้นลงเท่านั้น ทำให้ตัวอารามและเหล่านักบวชรอดพ้นจากการโจมตีจากพวกเตริก์ที่เข้ามารุกรานทางด้านเหนือของประเทศได้ จนปี ค.ศ. 1920  จึงค่อยมีการสร้างทางบันไดลัดเลาะไปตามไหล่เขาเข้าถึงตัวอาราม
ปัจจุบัน Meteora ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปีค.ศ.1988 ปัจจุบันหลงเหลืออารามใน Meteora  เพียง 6 แห่งเท่านั้น นั่นคือ
Great Meteora, St.Nikolaos Anapafsas, Varlaam, Roussanou, Holy Trinity และ St.Stefanos
เราไปขับรถเล่น ชมอารามลอยฟ้า Meteora แสงแดดบ่ายกำลังสวยเลย
Sunset in Meteora จะมีจุดถ่ายรูปที่แนะนำตามรูปเลยครับ

 

เราไปขับรถเล่น ชมอารามลอยฟ้า Meteora แสงแดดบ่ายกำลังสวยเลย
Sunset in Meteora จะมีจุดถ่ายรูปที่แนะนำตามรูปเลยครับ

จุดที่หนึ่ง Sunset Rock is located at the top of Meteora in the first of the parking lots

จุดที่สองSunrise Rock : Sunrise Point is located behind the next car park along the road after passing Sunset Rock.

จุดที่สาม St Nikolaos Anapafsas Monastery : pull in opposite the entrance to the Roussanou Monastery

จุดที่สี่ Varlaam Monastery : park at the Great Metereon car park and walk back down the road towards Varlaam. Turn right out onto the grassy verge which lies between Varlaam and Great Metereon and walk down the path below.

กว่าพระอาทิตย์จะตกนานมากครับ เรานั่งเล่นตรงอาราม Varlaam จนเบื่อเลยไปหาร้านอาหารทานกันดีกว่า
แนะนำร้านเก่าแก่ของที่นี่ Meteoron Panorama อาหารอร่อยมากๆเลยครับ เจ้าของใจดีน่ารักมากๆ ยิ้มแย้มตลอด

Day6: Meteora-Athens

เช้านี้ที่ Meteora อากาศเย็นสบายมากๆครับ ที่โรงแรมที่เราพักมีหนังสือภาษาไทย …ประวัติศาสตร์กรีก-โรมัน… วางไว้ น่าจะเป็นคนไทยที่เคยาพักลืมหรือเปล่าครับ แต่เล่มนี้ดีอ่านเพลินๆ เหมาะแก่การอ่านก่อนมาเที่ยวกรีซครับ

แพลนวันนี้ เราจะเข้าชมอาราม Great Meteora  แห่งเดียวครับ เพราะหาข้อมูลมาแต่ล่ะที่ภายในอารามก็คล้ายๆกัน

Great Meteora  เป็นอารามที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอารามที่หลงเหลืออยู่ครับ

Great Meteora  ใหญ่โตมากจริงๆครับ กว่าเราจะหาที่จอดรถยากมาก เพราะทุกคนที่มาเที่ยวที่ Meteora ต้องมาอารามนี้ครับ ใครที่พาผู้สูงอายุมาระวังซักนิดครับ เพราะจะต้องเดินลัดเลาะขึ้นบันไดหลายร้อยขั้นอยู่ครับ ค่าเข้า 3 Euro แต่งตัวสุภาพด้วยนะครับ

อาราม Varlaam ถ่ายจาก Great Meteora

ภาพวาดนักบุญในศาสนาคริสต์นิกายกรีก ออร์ธอด็อกซ์ ให้ทายว่านักบุญรูปสุดท้ายคือใครครับ ???

ภายในอารามดูเงียบสงบ มีมุมจัดแสดงหลายห้องอยู๋ครับ มีพิพิธภัณฑ์ให้เราเข้าไปชมได้

วิวเบื้องล่างของเมือง Kalablaka

ห้องครัวในสมัยโบราณ จัดแสดงเหมือนของดั้งเดิมเลยครับ แต่ก่อนนี่การจะเข้าถึงอารามต้องใช้บันไดลิง เข้าถึงยากมาก ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกว้านยกแผงตาข่ายเชือกถักเป็นเหมือนเปลให้นั่งขึ้น จนถึงช่วงปี1920 ถึงมีการสร้างถนนและบันไดเพื่อการเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันเป็นแบบนี้ ใช้ขนส่งของครับ

มากรีซควรมาที่ Meteora นะครับ เมืองเล็กๆที่โอบล้อมด้วยภูเขา แต่มีอารามสูงเสีนดฟ้าบนยอดภูเขาที่เกิดความตั้งใจ มุ่งมั่นในการปลีกวิเวิก เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับพระเจ้า

Holy Trinity Monastery

Monastery of St. Stephen

เราออกจาก Meteora เกือบ 11.00 มุ่งหน้ากลับเอเธนส์ แต่แนะนำว่าให้แวะถ่ายรูปกับอนุสรณ์กษัตริย์ Leonidas ที่เมือง Thermopylae

พระมหากษัตริย์นักรบกล้าหาญแห่งนครรัฐกรีกสปาร์ตา พระองค์ทรงนำกำลังทัพสปาร์ต้าระหว่างการบุกครองกรีซครั้งที่สองของเปอร์เซียและทรงเป็นที่จดจำสำหรับการสวรรคตที่ยุทธการที่เทอร์มอพิลี

เราขับรถลงใต้ไปยังเมืองหลวง เอเธนส์ ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. เลยแวะไปเดินเล่นที่ Monastiraki Flea Market

เราจอดรถที่ถนน Ag.asomaton ใกล้กับโรงแรม Jason inn บริเวณนี้ใกล้กับ Metro Thissio เราเดินไปตามถนนเดิน Adrianou ผ่านร้านอาหารมากมาย ร้านขายของที่ระลึก จะเลาะไปตาม Roman agora และทางรถไฟที่ระบายสีกราฟฟิติ เต็มไปหมด เห็นทางเข้าชม Ancient agora แวะเที่ยวเลยดีกว่าครับ

แนะนำซื้อตั๋ว Combined package ticket ราคา 30 euro  รวมค่าเข้าAcropolis กับโบราณสถาน ในบริเวณ Acropolis ได้หมดเลยครับ ตั๋วมีอายุ 5วัน

Ancient agora เป็นแหล่งชุมชนที่ผู้คนชาวเอเธนส์ในสมัยโบราณต่างมาพบปะ พูดคุย ซื้อของกัน ตรงบริเวณนี้กินพื้นที่กว้างมากๆ ภายในเราจะพบอาคารโถงยาวที่เรียกว่า Stoa of Attalos

Stoa of attalos เป็นอาคารที่ถูกบูรณะใหม่เมื่อปี 1956 โดยในสมัย 2,150 ปีก่อน เคยเป็นแห่งรวมร้านค้าต่างๆมากมาย อาคารนี้แบ่งเป็น 2 ชั้น ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุโบราณที่ขุดพบในบริเวณ Agora

จากตรงนี้เราสามารถมองเห็น Acropolis ได้

Church of the Holy Apostles

Temple of Hephaestus เดินมาทางฝั่งตะวันตก เราจะพบวิหารเทพเฮฟเฟสตส เทพเจ้าแห่งไฟ โลหะ และงานช่าง ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มากครับ ซึ่งสร้างตั้งแต่สมัย 415 BC

เราออกจากบริเวณ Ancient agora ไปทางทิศเหนือตาม ถนนคนเดิน Adrianou มีร้านขายรัดเกล้าประดับศรีษะเต็มไปหมด เผื่อใครอยากย้อยยุคเป็นสาวกรีกโบราณ

Hadrian’s Library เป็นหอสมุดขนาดใหญ่ ที่กษัตริย์เฮเดรียนให้สร้าง นับว่าเป็นอาคารที่หลังใหญ่และหรูหรามากในยุคนั้น

Tower of the Winds หอคอยแห่งสายลม  เป็นหอสูงทรงแปดเหลี่ยม แต่ละด้านแกะสลักเทพตัวแทนแห่งสายลมทั้ง 8 ทิศ นี่คือสถานีตรวจอากาศสมัยโบราณ

Tips: ***ตรงจุดนี้ระวังตัวด้วยครับมีแกงค์คนดำ คอยเข้ามาชวนเราคุยและผูกข้อมือ***

เราเดินย้อนกลับมาที่ Monastiraki Flea Market เป็นจัตุรัสที่มีร้านค้ามากมาย เป็นแหล่งพบปะผู้คนมากมาย มีจุดแลนด์มาร์คคือ มัสยิด tzistarakis
ที่นี่ขายผลไม่น่าทานหลายอย่าง เช่นเชอรี่ พีซ ราคาไม่แพงมากนัก แต่ดูดีๆว่ามีลูกเน่าๆปนหรือเปล่า

เกือบหกโมงเย็น เราเลยกลับที่รถ เพราะจะไปที่แหลม Sunion ไปชมพระอาทิตย์ตกดิน แต่….เกือบเป็นลม
รถที่เราเช่ามาโดนทุบกระจกทางข้างหลังด้านซ้าย เปิดกระโปรงหลังคือ กระเป๋าหายหมดเลย ตอนนั้นสติหลุดกันทุกคน จะทำไงดี

***ตั้งสติกันได้ เดินหากระเป๋าบริเวณนั้นเผื่อว่า พวกโจรจะทิ้งไว้บ้าง แต่ไม่พบเลยครับ

***พยายามโทรหาตำรวจ แต่ไม่เป็นผล แพลนว่าจะขับไปที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุด พอดีมีชาวบ้านมาจอดรถพอดี เค้าก็ช่วยเราไม่ได้ ก็แนะนำให้ไปสถานีตำรวจ

***โทรหาบริษัทรถเช่า  โชคดีมากที่บ.เข้าใจและให้เรารีบเอารถเข้าไปเปลี่ยน

เรารีบขับไปที่สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็แค่รับแจ้งความ และออกใบเคลมให้เราเท่านั้นนะครับ เพราะคงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน กว่าจะแจ้งความออกใบเคลมเสร็จก็เกือบ 20.30 รีบขับที่บริษัทเช่ารถดีที่เค้ายังคงรอเราอยู่ ต้องขอบคุณบริษัท Sixt มากๆ เค้าเข้าใจนะครับ และบอกว่าเกิดไม่บ่อย อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็บ่อยนะเอาจริงๆ กว่าจะได้เปลี่ยนรถก็สามทุ่มกว่า เหนื่อยมากๆวันนี้

ชีวิตต้องเดินต่อไป ของหายต้องปล่อยไป เราไปหา Rooftop bar นั่งชิลล์ดีกว่า อารมณ์ไหนเนี่ย
แนะนำของ Lonely planet จัดอันดับ Rooftop bar ที่เอเธนส์ หลายร้านเลยครับ

The Zillers
Rooftop bar บนดาดฟ้าของ Zillers Boutique Hotel ในย่านplaka ใกล้ที่พักเราครับ
ที่นี่วิวสวยมากครับ เราจะเห็น Acropolis ยามค่ำคืน

part 2 ก็คงพอเท่านี้ ไว้ติดตามต่อใน part 3 นะครับ

หากเห็นว่าข้อมูลดี มีประโยชน์ ช่วยกด like แฟนเพจเฟซบุ๊คเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะครับ
❤️

ชื่อเพจ
Travel together – เที่ยวด้วยกันหมอฟันรีวิว
หรือตามลิงค์ไปได้เลยครับ

29 COMMENTS

  1. Do you have a spam issue on this blog; I also am a blogger, and I was wanting to know your situation; many of us have created some nice procedures and we are looking to swap solutions with others, be sure to shoot me an e-mail if interested.| Isabelita Ike Hogle

  2. Great post. I was checking continuously this blog and I am impressed! Extremely helpful information particularly the last part I care for such info a lot. I was seeking this certain info for a very long time. Thank you and good luck. Flo Ric Subak

  3. This Titan missile silo complex is much larger than the Atlas silo that I dove previously. It also had much more of the original equipment inside. I only did 2 dives here, but I could easily do more to explore other areas in the complex. Inessa Kennedy Marv

  4. Hiya, I am really glad I have found this information. Nowadays bloggers publish just about gossip and net stuff and this is really irritating. A good blog with exciting content, this is what I need. Thank you for making this website, and I will be visiting again. Do you do newsletters by email? Karissa Sander Armelda

  5. Its like you read my mind! You seem to know so much about this, like you wrote the book in it or something. I think that you could do with some pics to drive the message home a bit, but instead of that, this is great blog. An excellent read. I will certainly be back. Rahal Meyer Hungarian