การเดินทางระหว่างเมืองใน ”อียิปต์” ด้วยรถไฟเป็นสิ่งน่าสนใจด้วยข้อดีๆหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
– ความปลอดภัย: จัดว่าปลอดภัยเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเลือกแบบตู้นอนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง นอกจากนี้การที่รถไฟแล่นบนราง ทำให้เราหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุบนท้องถนนที่ขับรถกันอย่างน่ากลัวไปได้ครับ
– ค่าใช้จ่าย: การนอนบนรถไฟทำให้เราประหยัดค่าโรงแรมในคืนนั้นๆไปได้เลย และยังมีค่าโดยสารที่ถูกกว่าเครื่องบินมาก
– ความสะดวกสบาย: ที่นอนในตู้นอนเป็นแบบนอนราบ รถไฟแล่นไม่เร็วมาก หลับสบายถึงเช้าเลย แล้วสถานีรถไฟยังอยู่ใจกลางเมืองท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่า เมื่อเราไปถึงเมืองต่างๆแล้วจะหารถต่อไปไม่ได้ครับ
– บริการประทับใจ: การเลือกตู้นอนมีอาหารเสิร์ฟมื้อเย็น (ดึก) และอาหารว่างตอนเช้า ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องพกเสบียงติดไประหว่างการเดินทางที่ยาวไกล พนักงานพูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว ตัดปัญหาการสื่อสารไปได้เลย
จากประสบการณ์ที่เพิ่งไปมาสดๆร้อน ขอบอกว่า “คุ้มค่า” ครับ เลยจะมารีวิวการท่องเที่ยวรถไฟในอียิปต์ พร้อมวิธีการจองอย่างละเอียดครับ

เส้นทางการเดินรถ: รถไฟอียิปต์ ผ่านเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ไคโร อเล็กซานเดรีย ลักซอร์ และอัสวานซึ่งอยู่ใต้สุด (ไม่มีรถไฟไปอาบู ซิมเบลนะครับ)

Credit รูปภาพ: https://en.wikipedia.org/wiki/Egyptian_National_Railways

ตู้รถไฟแบ่งออกเป็น
– Sleeper เป็นตู้นอนราบ มี 2 ประเภท คือ นอนคนเดียวในตู้ (Single cabin) กับนอน 2 คน (เตียง 2 ชั้น: Bed in double cabin) ในตู้ มีเครื่องปรับอากาศ
– First class เป็นเบาะนอนเอน มีเครื่องปรับอากาศ
– Second และ Third classes 2 แบบนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ เพราะไม่ได้ใช้บริการเนื่องจากเห็นว่าไม่ค่อยปลอดภัยแต่ราคาถูกมาก

ก่อนรีวิวตู้รถไฟแต่ละประเภท ขอเริ่มที่สถานีรถไฟครับ สถานีรถไฟในอียิปต์มีคนพลุกพล่านมาก ที่สถานีมีเครื่องตรวจจับโลหะก่อนเข้า (แต่จริงๆแอบเข้าทางอื่นได้ เห็นคนแถวนั้นเดินเข้าออกกันเป็นว่าเล่น) ส่วนทางเดินข้ามทางรถไฟนั้น ในสถานีใหญ่อย่างไคโร จะมีทางลอดให้ครับ ส่วนสถานีอื่นก็เดินกันตามอารมณ์ อยากข้ามก็ข้าม

ตามชานชาลามีร้านขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว ราคาไม่แพง และรสชาติดี แต่สังเกตดีๆ นะครับ ว่าเราได้หยิบของที่ต้องการมาถูกต้องหรือป่าว เช่น คุกกี้ครีมห่อนี้ ที่ชื่อคล้ายๆแบรนด์ดัง “BORIO”

เนื่องจากคนใช้บริการมีจำนวนมาก แต่เก้าอี้นั่งรอมีน้อย ส่วนใหญ่ก็นั่งพื้นกัน แต่สำหรับคนที่ถือตั๋ว sleeper จะมี First class lounge แยกออกมาเพื่อให้นั่งสบายหน่อย ค่าบริการอยู่ที่ 10 EGP พร้อมกับพนักงานจะคอยมาบอกว่ารถไฟมาแล้ว ถูกเวอร์จริงๆ และนี่คือ First class lounge ครับ

มาเริ่มกันที่ตู้แบบ Sleeper เป็นประเภทนี่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมใช้กันมากครับ สามารถจองออนไลน์ล่วงหน้าได้ ค่าบริการขึ้นอยู่กับระยะทา
– ไกลสุดคือเส้นทาง อเล็กซานเดรีย ไป ลักซอร์/อัสวาน อยู่ที่ 120 USD (Single cabin) และ 100 USD (Bed in double cabin)
– จาก ไคโร/กีซ่า ไป ลักซอร์/อัสวาน อยู่ที่ 110 USD (Single cabin) และ 80 USD (Bed in double cabin)
ทั้ง 2 ทริป ขาไป และขากลับ ราคาเท่ากัน

ระยะเวลาเรียกว่านานนนนนน ครับ แต่ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัว แอดมินเลือกนอนจาก กีซ่า ไป อัสวาน ด้วยระยะเวลา 11 ชั่วโมงครับ และนี่คือตู้นอนแม้ว่าทางเดินจะแคบสักหน่อย แต่ก็สะอาดสะอ้าน

ส่วนนี่คือภายในตู้นอนแบบ Bed in double cabin เป็นเตียง 2 ชั้นครับ เมื่อขึ้นรถไปชั้นล่างจะยังคงเป็นที่นั่ง พนักงานจะมาจัดการที่นอนให้หลังเสิร์ฟอาหาร และนี่คืออาหารบนรถไฟครับ มีทั้งของคาวและหวาน เราสามารถเลือกไปก่อนได้ ไว้จะบอกในวิธีการจองนะครับ ส่วนรสชาติใช้ได้เลย

หลังทานอาหารเสร็จได้สักพัก พนักงานจะมาถามว่าต้องการปูเตียงเลยไหม ถ้าพร้อมแล้วก็จัดครับ

อ้อในตู้มีอ่างล้างหน้าด้วยนะครับ จัดว่าสะดวกสบายดีทีเดียว ส่วนข้อเสียอย่างเดียวก็คงจะเป็นเรื่องห้องส้วม ต้องออกไปใช้ด้านนอกแบบรถไฟบ้านเราน่ะแหละครับ

เนื่องจากเส้นทางส่วนใหญ่ขนาบข้างไปกับแม่น้ำไนล์ เราก็จะได้เห็นวิวแม่น้ำไนล์ไปตลอดทางเลย

ส่วนนี่คือ Light meal มื้อเช้า มีขนมปังกินกับเนยและแยม ชาลิปตันซอง

ส่วนแบบ First class จะเป็นการเอนนอน ที่นอนก็กว้างอยู่ ถึงจะไม่สะดวกสบายเท่าแบบตู้นอน แต่ราคาถูกกว่ามาก จากลักซอร์ไปไคโร ประมาณ 40 USD เท่านั้น เห็นว่ามีจองออนไลน์ล่วงหน้าได้เหมือนกัน แต่แอดมินหาเว็บไม่เจอ ส่วนตัวไปจองที่สถานีครับ คนไม่เต็มด้วย รถโล่งทีเดียว ลืมบอกไปว่าควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย เพราะรถไฟเปิดแอร์เย็น (ทั้งที่อากาศภายนอกก็เย็นอยู่แล้ว)

มาถึงวิธีการจองครับ เราสามารถจองออนไลน์ไปล่วงหน้าได้เลย โดยจะได้รับ E-ticket ทางเมล ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือ พอเข้าเว็บแล้วมันดูงง ไม่ง่ายอย่างที่คิดน่ะสิครับ ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย เริ่มแรกเข้าไปที่เว็บ
http://wataniasleepingtrains.com/

เมื่อเข้าไปแล้ว ตัวหนังสือจะเรียงกันไม่ค่อยเป็นระเบียบ แถมมีเลขรถมาด้วยสิ ให้ดูอย่างในรูปครับ ว่าเราจะไปเมืองไหน เช่นที่วงไว้คือ เส้นทางจาก ไคโร ไป มาทรูห์ แล้วเราก็จดเลขรถไว้เพื่อความมั่นใจ

เลื่อนลงมาเช็คราคา ตัวหนังสือในตารางที่แถวบนจะเรียงติดกันเป็นพรืดอ่านแล้วงง แยกได้ตามที่ขีดเส้นแดงแบ่งไว้ให้นะครับ
– Single cabin นอนคนเดียว
– Bed in double cabin นอน 2 คน (เตียง 2 ชั้น) ใน 1 cabin
– Child เป็นราคาสำหรับเด็กอายุ 4-9 ขวบ

ขอยกตัวอย่างเส้นทางที่แอดมินไปนะครับ ข้อมูลก็เป็นตามนี้
– เส้นทาง “กีซ่าไปอัสวาน”
– เลขรถ 86/87
– ราคา เราก็ดูราคาสำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งแพงที่สุด ฮ่าๆ
– อย่างที่อธิบายไปก่อนหน้านี้ คือมีบริการอาหารครับ โดยเสิร์ฟมื้อเย็น (ค่ำ) 1 ครั้ง และมื้อเช้าอีก 1 ครั้งเป็น light meal

เลื่อนลงมาเพื่อเอกวันเดินทาง

ข้างล่างจะมีตารางเดินรถให้ดูครับ จะเห็นว่า
– เลขรถ 84 นั้นรถออกจากกีซ่า 19.45 น. แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เราต้องการ เพราะกลัวกลับมาไม่ทัน เลยต้องไปดูอีกรถ
– เลขรถ 86 ต้นทางอยู่ที่ไคโร ปลายทางอยู่อัสวาน แต่ระหว่างทางผ่านกีซ่า เราสามารถเลือกไปขึ้นที่กีซ่าได้ ด้วยราคาเท่ากันตามที่กล่าวไปแล้วครับ ก็จะได้เวลาที่เราต้องการคือ 20.15 น.
สรุปคือ เราต้องเอาเลขรถ 86 ครับ

เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยก็กด reservation

หน้าเว็บจะขึ้นสรุปมา เราก็ตรวจสอบให้ถูกต้องครับ

จะเห็นว่าเลขรถ 86 ตามที่เราจดไว้ โอเคถูกต้อง แล้วก็เลือกประเภทเตียงนอนครับ อันนี้เลือก Bed in double cabin
***จำนวน 2 หมายถึง 2 เตียงนะครับ ไม่ใช่ 2 cabin นั่นคือ 1 cabin นอนได้ 2 คน ราคา 80 USD/คน ไม่ใช่ 80 USD/cabin***

เลื่อนลงมาอีกจะให้เลือกอาหาร มีให้เลือกตามนี้ครับ Fish, Chicken, Vegetarian, Beef และ Light meal
***จะมีให้เลือกอาหารตรงนี้แค่ 1 คน เพราะฉะนั้นถ้าไปกันหลายคนแล้วกินไม่เหมือนกันไม่ต้องตกใจนะครับ จะมีให้แก้ไขหลังจากนี้

เช็คราคาอีกครั้ง (มีภาษีมูลค่าเพิ่ม) และยังไม่รวมค่าบริการอีก 5% เมื่อจ่ายผ่านบัตรเครดิต

กรอกข้อมูลส่วนตัวของคนจองให้ครบ และที่ด้านล่างสุดนี้เอง จะมีให้เลือกคำสั่ง Edit followers ซึ่งสามารถแก้ไขเมนูอาหารสำหรับคนที่เราจองเผื่อได้ครับ เสร็จแล้วก็กด book now จ่ายเงิน แล้วก็รอ E-ticket
ปล. ปรินท์ E-ticket สามารถใช้เป็น boarding pass ขึ้นรถได้เลยโดยไม่ต้องไปแลกตั๋วจริงที่ไหนอีกครับ
ปล. 2 หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ แม้อาจจะแพงไปบ้าง แต่คิดดูดีๆก็คุ้มนะครับ ได้ทั้งประหยัดค่าโรงแรม ประหยัดค่าเดินทาง ประหยัดเวลาเดินทาง อีกอย่างได้นอนนานๆด้วย ซึ่งตลอดทริปจะมีไม่กี่วันหรอกที่เราได้นอนเต็มอิ่ม ไหนจะต้องตื่นกลางดึกเพื่อเดินทางไปขึ้นบอลลูน ตื่นเช้ามืดเพื่อนั่งรถไปชายแดนที่อาบูซิมเบลอีก เพราะฉะนั้นหากมีโอกาสให้นอนครับ ฮ่าๆ

20 COMMENTS

  1. Hey! This is kind of off topic but I need some advice from an established blog.
    Is it difficult to set up your own blog? I’m not very techincal but
    I can figure things out pretty fast. I’m thinking about setting up my own but I’m
    not sure where to begin. Do you have any points or suggestions?
    Appreciate it